วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ประวัติส่วนตัว


ชื่อ ด.ช. จักรกฤษ นันทวิสิทธิ์

เกิดวันที่ 18 เดือน มีนาคม ปี 2543 

อายุ 15 ปี 

ที่อยู่ วุฒากาศ 42 เขตจอมทอง

แขววงบางค้อ กรุงเทพมหานะคร 

FACEBOOK : Ake Jakkrit Nunthavisith


วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ประโยชน์ของการใช้คอมพิวเตอร์และข้อเสียของการใช้คอมพิวเตอร์

    จัดทำโดย

เด็กชาย จักรกฤษ นันทวิสิทธิ์  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/7 เลขที่ 3
เสนอ
ครู ชวลิต  มะสำอินทร์
   รายงานโครงงานคอมพิวเตอร์ โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา
วิชา โครงงานคอมพิวเตอร์ (ง23102) 
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (คอมพิวเตอร์)
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1

บทคัดย่อ


ได้รู้ถึงผลดีของคอมพิวเตอร์ว่ามีอะไรดีบ้างและมีอะไรที่เป็นข้อเสีย การศึกษาเหล่านี้มักจะรู้ได้ทางตัวเองและการศึกษา คอมพิวเตอร์นั้น ส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างเช่นการเล่นเกมส์ออนไลน์ต่างๆ การทำงาน แต่หากรู้หรือไม่ว่าคอมพิวเตอร์นั้นก็มีข้อเสียและเยอะมากเหมือนกันและเราจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร คำตอบง่ายๆคือ ไม่เล่นมากเกินไป และไม่ติดจอเกินไป ตอนใช้คอมพิวเตอร์นั้นควรที่จะ เปิดไฟทุกครั้ง หากทำห้องให้มืด สายตาจะได้รับแต่แสงที่มาจากคอม ทำให้เสียสายตาได้ง่าย ผลดีของคอมพิวเตอร์ก็มีเช่นกัน อย่างเช่น เราใช้อินเตอร์เน๊ตเพื่อการทำงานและการบันเทิงต่างๆ ก่อนใช้นั้นควรจะศึกษาวิธีการใช้มาให้ดีเสียก่อน ไม่เช่นั้นอาจจะ เกิดข้อผิดพลาดในการใช้งาน และต้องศึกษาเกี่ยวกับอุปกรณ์วิธีการใช้งานของคอมพิวเตอร์มาอย่างดี เพื่อให้ได้ใช้อย่างถูกต้องหากใช้ได้อย่างถูกต้อง ก็จะไม่ต้องเกิดข้อผิดพลาดต่างๆ

โครงงานฉบับนี้สาเร็จได้ด้วยความกรุณาของคณะผู้บริหารและคณะอาจารย์หมวดคอมพิวเตอร์
ซึ่งได้ให้คำปรึกษา ข้อชี้แนะ และความช่วยเหลือจนกระทั่ง
โครงงานสาเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี คณะผู้จัดทาขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้
คณะผู้จัดทำ
บทที่1

บทนำ


ที่มาและความสำคัญ

1.ประโยชน์ด้านการศึกษา ใช้เพื่องานด้านการเรียนการสอนในหลายรูปแบบ เช่นการนำบทเรียน การผลิตสื่อการสอน การใช้ซีดีรอมสำหรับการเรียนรู้ เกมเพื่อการศึกษาหรือคอมพิวเตอร์ช่วยสอน หรือเป็นการสอนโดยการแสดงในจอมอนิเตอร์เพื่อให้แสดงในการเรียนการสอนเป็นการช่วย ทางด้านความสะดวกสะบาย ไม่ต้องให้เด็กมานั่งพกหนังสือ ให้อ่านในหนักสือแต่เป็นการสอนโดยการอธิบายไปพร้อมๆกันและมีตัวอย่างแสดง

2.ด้านความบันเทิง เป็นการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อความสนุกสนานบันเทิง เช่น เล่นเกม,ฟังเพลงชมภาพยนต์,และการเล่นเกมส์ถึงการทำเช่นนี้จะเป็นการทำให้เราติดกันเป็นประจำ แต่ข้อดีของมันคืออย่างน้อยของการเล่นเกมส์นั้นคือช่วยผ่อนคลายไม่ให้เกิดความเคลียด และยังสามรถเล่นเกมให้เกิดอาชีพได้อีกด้วยโดยการลงแข่งขันงานเกมส์เพื่อที่จะชิงเงินรางวัลอันมากมาย

3.ด้านการสื่อสาร สมารถใช้คอมพิวเตอร์รับ-ส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ได้ และยังสมารถสนทนาผ่านอินเตอร์เน๊ตได้เล่น การสื่อสารโดยการใช้ Facebook,Line เป็นต้น เป็นการสื่อสารโดยการใช้อินเตอร์เน๊ตเป็นการเชื่อมต่อข้อมูลหากไม่มีอินเตอร์เน๊ตก็ไม่สามรถใช้การสื่อสารพวกนี้ได้

4.ด้านศิลปะและการออกแบบ เป็นการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการวาดรูปการ์ตูนออกแบบ งานและการสร้างภาพกราฟิกหรือการตกแต่งภาพในคอมพิวเตอร์และยังสามรถออกแบบนอกจากนี้ได้อีกเช่นการออกแบบบ้าน การออกแบบสวน การออกแบบเสื้อผ้า ทั้งนี้ก็ใช้คอมพิวเตอร์ในการออกแบบเพื่อให้งานออกมาสวยได้ดั่งใจ ไม่ต้องมานั่งวาดเขียนๆลบๆแต่เป็นการทำโดยการใช้คอมพิวเตอร์ในการช่วยประหยัดเวลาในการทำงานและทำให้งานออกมาทีอีกด้วย

5.ด้านการแพทย์ ปัจจุบันมีการนำคอมพิวเตอร์มาช่วยงานด้านการแพทย์หลายด้าน เช่น การเก็บประวัติคนไข้ การใช้ทดลอง  ประกอบการวินิจฉันของแพทย์ใช้ในการตรวจเลือก ตรวจปัสสาวะ การผ่าตัดหัวใจการตรวจสอบห้องพักผู้ป่วยว่าว่างหรือไม่ การควบคุมแสงเลเซอร์การเอ็กซ์เรย์ การตรวจคลื่อนสมองคลื่นหัวใจ เป็นต้น

6.งานธุรกิจ เช่น บริษัท ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ตลอดจนโรงงานต่างๆ ใช้คอมพิวเตอร์ในการทำบัญชี งานประมวลคำ และติดต่อกับหน่วยงานภายนอกผ่านระบบโทรคมนาคม นอกจากนี้งานอุตสาหกรรม ส่วนใหญ่ก็ใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยในการควบคุมการผลิต และการประกอบชิ้นส่วนของอุปกรณ์ต่างๆ เช่น โรงงานประกอบรถยนต์ ซึ่งทำให้การผลิตมีคุณภาพดีขึ้นบริษัทยังสามารถรับ หรืองานธนาคาร ที่ให้บริการถอนเงินผ่านตู้ฝากถอนเงินอัตโนมัติ ( ATM ) และใช้คอมพิวเตอร์คิดดอกเบี้ยให้กับผู้ฝากเงิน และ
การโอนเงินระหว่างบัญชี เชื่อมโยงกันเป็นระบบเครือข่าย

7. ด้านการบริหารประเทศ รัฐบาลได้นำคอมพิวเตอร์มาใช้ในประโยชน์ต่างๆเพื่อส่งเสริมการบริหารประเทศ ดังนี้
(3.1) เป็นช่องทางการรับรู้ข้อมูลจากประชาชน
(3.2) เป็นช่องทางการนำเสนอข้อมูลไปสู่ประชาชน
(3.3) ส่งเสริมการแสดงออกซึ่งประชาธิปไตย
(3.4) เพิ่มทัศนคติที่เกี่ยวกับการบริหารประเทศด้านบวกให้แก่ประชาชน
(3.5) เป็นช่องทางการติดต่อสื่อสารระหว่างหน่วยงานของรัฐบาล
(3.6) ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและข้าราชการในการจัดการเกี่ยวกับงานด้านทะเบียนราษฎร

8. ด้านสังคมศาสตร์ เป็นงานที่เกี่ยวกับมนุษย์และประชาชน ดังนี้
(4.1) ช่วยเก็บข้อมูลสถิติด้านสังคมศาสตร์
(4.2) ช่วยคำนวณแนวโน้มปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
(4.3) ช่วยนำเสนอข้อมูลในรูปแบบของกราฟ แผนภูมิหรือภาพ 3มิติ ทำให้เปรียบเทียบข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น

9. ด้านวิทยาศาสตร์ การช่วยค้นหาวิธีการทดลองหรือแนวความคิดด้านวิทยาศาสตร์ใหม่ๆ

(6.1) ช่วยเก็บและประมวลผลข้อมูลในงานวิจัยและการทดลองต่างๆ

(6.2) เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของอุปกรณ์นั้น

(6.3) ช่วยทำงานวิจัยหรืองานทดลองที่มีความละเอียดและมีขนาดที่เล็กๆได้

(6.4) สร้างแบบจำลองงานทดลองเพื่อความลดความผิดพลาดจากการทดลองกับความจริง

10. ด้านสำนักงาน เป็นประโยชน์ที่ผู้ใช้ทุกคนได้รับมากที่สุด ดังนี้

(11.1) ให้สร้างงานนำเสนอในรูปแบบที่น่าสนใจ

(11.2) ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์เอกสาร

(11.3) ช่วยเก็บข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจของผู้บริการ

(11.4) ช่วยจัดทำ แก้ไข หรือคัดลอกเอกสารต่างๆได้อย่างรวดเร็ว เป็นระเบียบเรียบร้อย

โทษจากคอมพิวเตอร์

1. เสียสุขภาพการใช้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานานนอกจากทำให้ปวดเมื่อยตามร่างกายแล้ว  มีผลเสียต่อสุขภาพทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น    โรคอ้วน การนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ เช่น การเล่นเกมทำให้ขาดการออกกำลังกายเป็นสาเหตุให้เกิดโรคอ้วนได้    โรคนิ้วล็อก การใช้คอมพิวเตอร์ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน โดยใช้ข้อมือหรือนิ้วมือในท่าเดิม ทำให้เกิดพังผืดบริเวณช่องเส้นเอ็นที่ข้อมือและนิ้วมือ ทำให้นิ้วล็อก กางนิ้วออกไม่ได้ เกิดที่ข้อมือ ทำให้เจ็บปวดมาก    โรคเกี่ยวกับตา โรคตาแห้งทำให้แสบตา ระคายเคือง  มีอาการกระตุกบริเวณกล้ามเนื้อตา  ปวดหัว และอาจอักเสบจนเป็นต้อลมได้  ควรพักสายตาโดยมองขึ้นเบื้องสูงทุก ๆ 10 นาที หรือ เปลี่ยนอิริยาบถทุก ๆ ชั่วโมง  โรคอื่นๆ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคลำไส้อักเสบ โรคกระเพาะ ปัสสาวะอักเสบ

2.ความสำพันธ์กับคนรอบข้างลดลง ทำให้เกิดความสำพันธ์กับคนในครอบครัวและคนรอบข้างลดน้อยลง เพราะเวลาส่วนใหญ่จะถูกใช้ไปกับการอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นส่วนใหญ่ หนักๆเข้าเวลาทานอาหารถึงกับเอามาทานที่โต๊ะคอมเลยทีเดียว เรียกอีกอย่างนึงได้ว่าเป็นเหมือนการหมกตัวอยู่แต่ในห้องไม่ยุ่งกับใคร ใช้เวลาในโลกของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ คนพวกนี้มักจะเป็นคนขี้เก็บกด

3.เกิดปัญหาสังคม ทำให้เกิดเป็นหาสังคมเช่น การล่อล่วงเพือทำการมิดีไม่ร้ายหรือเรียกสั้นๆว่าข่มขืนนั้นเอง ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับวัยของนักเรียน เพราะเป็นวัยที่ไว้ใจคนง่ายหรือเชื่อคนง่ายนั้นเอง จึงเป็นช้องทางให้มิจฉาชีพปฎิบัติในสิ่งที่ไม่ดี


4.การเลียนแบบพฤติกรรมที่ไม่ดี เพราพสื่อที่เห็นทางอินเตอร์เน๊ตทำให้เกิดการเลียนแบบพฤติกรรมต่างๆที่ไม่เหมาะสมเช่น การแสดง ออกกับเพศตรงข้ามอย่างไม่เหมาะสม หรือ แม้กระทั้งการ ตั้งแก๊งก่อเหตุต่างๆ เป็นต้น

 บทที่2

เอกสารที่เกี่ยวข้อง
1. อินเทอร์เน็ต   ได้แก่ การรับรู้การใช้งานต่างๆของคอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน๊ตนั้นมีความสำคัญสำหรับคอมพิวเตอร์ และศึกษาเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ http://www.kruaew.com/p5.html
2.หนังสือเสริมความรู้จากห้องสมุดที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ที่มีข้อมูลมากมายหลายๆอย่างมารวมกัน
3.หนังสือกลุ่มสาระการเรียนรู้เทคโนโลยี  ชั้น ม. ๒   ได้แก่ ข้อมูลของการใช้อินเตอร์เน๊ต ข้อดีและข้อเสียของการใช้คอมพิวเตอร์ เป็นต้น


บทที่ 3
วิธีดำเนินงานโครงงาน
ลำดับขั้นตอนการศึกษา
๑.กำหนดปัญหา
๒.ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเรื่องประโยชน์ของการใช้คอมพิวเตอร์และข้อเสียของการใช้คอมพิวเตอร์
๓.รวบรวมข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตและและผู้มีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์
๔.ศึกษาค้นคว้าจากอินเทอร์เน็ตและหนังสือ
๕.รวบรวมข้อมูลที่ได้และตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ได้รับมาหลังลงมือปฏิบัติ
๖.ออกแบบรูปร่างเว็ปไซต์นี้ขึ้นมา เพื่อทำการเผยแพร่ให้กับนักเรียนชั้น ม. ๓ ได้ศึกษาเพื่อให้เกิดการเข้าใจ
.ออกเผยแพร่ความรู้ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าโครงงานโดยผ่านทางอินเทอร์เน็ตหรือรายงาน
๘.นำความรู้ที่ได้มา  จัดทำเป็นเว็บบล็อก 
บทที่ 4
ผลการดำเนินงานโครงงาน

จากการศึกษาเกี่ยวกับโครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง ประโยชน์ของการใช้คอมพิวเตอร์และข้อเสียของการใช้คอมพิวเตอร์ ทำให้ได้รับรู้เกี่ยวกับข้อมูลที่สำคัญและสามารถนำมาศึกษาแล้วเผยแพร่เพื่อนำมาเป็นสือการสอนการเรียนรู้ทางด้านอินเตอร์เน๊ตและนำข้อมูลที่ศึกษาได้นั้นจัดลงในโปรแกรม PowerPoint เพื่อนำเผยแพร่การสอนในหน้าห้องเรียนเพื่อให้ง่ายต่อการสอนการเรียนรู้ เราสามรถนำไปเผยแพร่ ทางด้านต่างๆเช่น การทำลงบล็อค เพื่อ เผยแพร่การศึกษาไม่จำเป็นต้อง ทำลงใน PowerPoint แต่เป็นการเผยแพร่และให้ผู้ศึกษาเข้าใจ ฯลฯ

บทที่ 5

สรุปผลการดำเนินงาน และข้อเสนอแนะ

สรุปผลจากการดำเนินงานได้ว่า จากการที่ได้ทำการไปศึกษาและจัดทำโครงงานเพื่อนำมาเสนอเกี่ยวกับประโยชน์ของการใช้คอมพิวเตอร์และข้อเสียของการใช้คอมพิวเตอร์ทำให้ได้รู้ว่า ผลดีและผลเสียของคอมพิวเตอร์นั้นมีมากมาย แต่เราต้องใช้อย่างถูกต้อง เช่น ไม่ควรอยู่หน้าคอมนานเกินไปอาจจะทำให้สายตาเสียได้ หรือ การใช้คอมพิวเตอร์ต้องทำให้ห้องสว่าง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องได้รับแสงจากคอมพิวเตอร์ไปจำนวนมากเพราะแสงจากคอมพิวเตอร์มีอันตรายต่อดวงตามนุษย์มาก


อภิปรายผลจากการทำโครงงาน

สรุปเรื่องประโยชน์ของการใช้คอมพิวเตอร์และข้อเสียของการใช้คอมพิวเตอร์
เราจะเห็นได้ว่าข้อดีและข้อเสียนั้น แตกต่างออกไป ยกตัวอย่างข้อดีเช่น ทำให้งานนั้นเสร็จได้อย่างรวดเร็ว และเพื่อเพื่มการบันเทิง ผ่อนคลายความเคลียดเช่น ดูหนัง ดูการ์ตูน เล่นเกมส์ และยังมีข้อดีของคอมพิวเตอร์อื่นๆอีกมากมายเช่น สามรถนำมาเป็นอาชีพได้ เช่นโปรแกรมเมอร์ เป็นต้น ปัจจุบันจะเห็นได้ว่า บ้านส่วนใหญ่นั้นมักจะมีคอมพิวเตอร์อย่างน้อยหลังล่ะ1เครื่องด้วยกัน เพื่อสะดวกแก่การ ศึกษาข้อมูล เช่น การหาสถานที่ต่างๆที่ต้องการจะไป การศึกษาทางโบราณคดีต่างๆ และข้อเสียคือ การทำให้ร่างกายผอมโทรม และทำให้สายตาเสีย อีกทั้งยังมีโรคต่างๆอีกมากมาย ข้อเสียนั้นมีมากมาย เช่น โรคอ้วน มักจะติดคอมพิวเตอร์กันจำนวนมาก วันๆมาก็กินนอนกินนอน จนทำให้เกิดเป็นโรคอ้วน เป็นต้น ฯลฯ

ข้อเสนอแนะ

สามารถนำโครงงานที่จัดทำนี้ไปจัดเป็นสื่อการเรียนการสอนได้เพื่อการศึกษาเพื่อเพิ่มความรู้ ทั้งเบื่องต้นและระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาเพื่อให้เกิดความรู็ และจะได้ระมัดระวังเกี่ยวกับข้อเสียของการใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อที่จะได้บอกต่อๆถึงข้อเสียของคอมพิวเตอร์


แหล่งอ้างอิง
แหล่งอ้างอิงจากหนังสือ
1.หนังสือเทคโนโลยี ม.๑
2.หนังสือเทคโนโลยี ม.๒
3.หนังสือทางห้องสมุดและทางโรงเรียน